fbpx

5 เคล็ดลับช่วยเลือกโปรแกรมการสครับผิวให้ดีต่อใจ!

การสครับผิวคืออะไร

ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย ‘การสครับผิว’ ยังคงเป็นหนึ่งในเคล็ดลับผิวกระจ่างใสที่ใครต่อใครต่างแนะนำและบอกต่อ โดยนอกจากจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกเพื่อเผยผิวกระจ่างใสแล้ว การสครับผิวยังถือเป็นการทำสปาที่ช่วยมอบความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจไปพร้อมกันด้วย

แล้วการสครับขัดผิวช่วยอะไรได้บ้าง จำเป็นแค่ไหน ควรเลือกการสครับผิวอย่างไรให้เหมาะสมและเห็นผลลัพธ์ที่ตรงใจ มาดู 5 เรื่องสำคัญของการสครับผิวที่นำมาฝากในบทความนี้ เพื่อช่วยให้ทุกคนเลือกโปรแกรม หรือ ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่ตอบโจทย์ความต้องการกัน

1. เข้าใจก่อน! การสครับผิวคืออะไร?

การสครับผิว คือ การขัดทำความสะอาดผิวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทั้งยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปจากบริเวณผิวหนัง ทำให้สามารถเผยผิวที่เนียนนุ่มและดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

แม้จะเป็นเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวที่หลายคนแนะนำ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยเช่นกันว่า การสครับขัดผิวช่วยอะไรและมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน คำตอบ คือ การสครับผิวสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพของกระบวนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ของร่างกายได้

โดยทั่วไปแล้ว ผิวหนังของมนุษย์จะทำการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุก 21 วัน หากวันใดที่ร่างกายมีความผิดปกติ อายุเพิ่มขึ้น หรือมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวอย่างการดื่มน้ำน้อย นอนดึก ไปจนถึงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ผิวของเราก็จะผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวเก่าและใหม่ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวดูหมองคล้ำขึ้นแล้ว เซลล์ผิวที่ทับถมกันนี้ยังสามารถเข้าไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดเป็นปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้

2. รู้จักผลิตภัณฑ์สครับผิว

จะเห็นได้ว่า การสครับผิว คือ หนึ่งในเคล็ดลับดูแลสุขภาพผิวที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ดี การจะสครับให้ผิวดูสุขภาพดีและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติจำเป็นต้องเลือกสครับที่เหมาะสมเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว สครับที่นำมาขัดผิวได้จะมีส่วนประกอบด้วยกัน 2 ส่วนหลัก คือ

  • ส่วนที่เป็นเม็ดสครับ

มีตั้งแต่เม็ดสครับพลาสติกสังเคราะห์อย่างโจโจบาบีดส์ที่มีความอ่อนโยนและไม่สร้างความเสียหายให้กับผิว ไปจนถึงเม็ดสครับจากธรรมชาติอย่างเกล็ดอัลมอนด์ กากกาแฟ เมล็ดข้าวโพด เมล็ดสตรอว์เบอร์รี เกลือ น้ำตาล ตลอดจนสมุนไพรบดละเอียด เช่น ขมิ้นบด ทานาคา และว่านนางคำ

  • ส่วนผสมสำหรับการดูแลผิว

ส่วนผสมในส่วนนี้จะมีความแตกต่างกันไปตามสูตรของผู้ผลิตแต่ละแห่ง เช่น มีการนำน้ำมันที่มีสรรพคุณช่วยดูแลผิวอย่างน้ำมันอัลมอนด์ หรือ น้ำมันมะพร้าวมาผสม ไปจนถึงการใส่น้ำมันหอมระเหยที่ช่วยปรับสมดุลร่างกาย รวมถึงมีส่วนผสมอย่างน้ำผึ้ง น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว ตลอดจนการนำผงถ่านชาโคลมาผสมเพื่อช่วยในเรื่องของการดีท็อกซ์ผิว เป็นต้น

3. เข้าใจความแตกต่างของสครับสำหรับผิวแต่ละบริเวณ

ผิวแต่ละประเภทมีความต้องการที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องเลือก ‘เนื้อสัมผัส’ ของสครับที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งหากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกสครับแบบไหนให้ตอบโจทย์ ลองมาพิจารณาการเลือกผลิตภัณฑ์สครับตามเช็กลิสต์ ดังนี้

  • คนผิวแห้ง ควรเลือกใช้สครับเนื้อน้ำมันและเนื้อครีม เนื่องจากช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้
  • คนผิวมัน ควรเลือกใช้สครับเนื้อเจล เนื้อโคลน และสครับเนื้อผงแห้ง เพราะลดความเสี่ยงในการอุดตัน ทั้งยังช่วยดูดซับความมันจากผิวได้เป็นอย่างดี
  • คนผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้สครับเนื้อเจล เนื้อครีม และเนื้อผงแห้ง ทั้งนี้ควรตรวจสอบให้ชัวร์ก่อนว่าแพ้ส่วนผสมใดเป็นพิเศษหรือไม่ เนื่องจากสครับแต่ละแบบมีอัตราส่วนและส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป

นอกจากจะพิจารณาตามสภาพผิวแล้ว การเลือกผลิตภัณฑ์สครับยังต้องคำนึงถึงบริเวณที่จะนำไปใช้งานด้วย

  • การสครับผิวหน้า ควรเลือกใช้สครับเนื้อละเอียด มีเม็ดสครับที่เล็กและอ่อนโยนต่อผิว เนื่องจากผิวหนังที่บริเวณใบหน้าและคอมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคืองสูง
  • การสครับผิวกาย ควรเลือกใช้สครับที่มีเม็ดสครับขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการขจัดเซลล์ผิวและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

การสครับขัดผิวช่วยอะไร

4. ควรสครับผิวบ่อยแค่ไหน?

แม้จะเป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่เพื่อเผยผิวกระจ่างใส แต่การสครับผิวที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ชั้นผิวบางและเสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย
นอกจากนี้ หากยิ่งสครับผิวบ่อย สครับผิวด้วยความรุนแรง หรือ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณและสภาพผิว ชั้นผิวของเราก็จะยิ่งอ่อนแอลง แถมยังคล้ำเสียได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

ดังนั้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างสุขภาพผิวที่มีประสิทธิภาพ ขอแนะนำให้สครับผิวเพียง 1 – 2 ครั้ง/สัปดาห์ หรือ สครับผิวเพียง 1 ครั้ง/เดือน ทั้งนี้เพื่อไม่รบกวนกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ

5. การเตรียมตัวก่อน – หลัง การสครับผิว

เพื่อช่วยให้เห็นผลลัพธ์ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเป็นการช่วยดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ขอแนะนำให้เตรียมตัวก่อน – หลังสครับผิว ดังนี้
ก่อนสครับผิว:

  1. ตรวจสอบอาการทางผิวหนังให้เรียบร้อย เนื่องจากการสครับผิวอาจเป็นตัวกระตุ้นให้โรคผิวหนังบางประเภททวีความรุนแรงขึ้น โดยผู้ที่มีปัญหาผิวอักเสบ สิวอักเสบ แผลติดเชื้อ โรคสะเก็ดเงิน แผลเปิด ผิวไหม้จากแดด ตลอดจนผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังอย่างโรคโรซาเซีย (Rosacea) ห้ามสครับผิวจนกว่าจะทำการรักษาให้หายขาด
  2. หากไม่มีอาการทางผิวหนัง ก่อนลงมือสครับผิว ขอแนะนำให้อาบน้ำอุ่นเพื่อเป็นการเปิดรูขุมขนออกก่อน
  3. ลงมือสครับผิวด้วยความอ่อนโยน ไม่ควรขัดถูแรงเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ผิวแดงและเป็นแผลตามมาได้

หลังสครับผิว:

  1. ล้างทำความสะอาดตัวด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง หลังจากนั้นเช็ดตัวให้แห้งสนิท
  2. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื่องจากผิวมักจะแห้งกร้านขึ้นหลังจากสครับผิวเสร็จ
  3. อย่าลืมทาครีมกันแดดที่บริเวณหน้าและส่วนอื่น ๆ ที่ทำการสครับ เพราะการสครับผิวจะเป็นการขัดทำความสะอาดเซลล์ผิวที่ตายออก ส่งผลให้มีความบอบบางและไวต่อแสงสูง หากไม่ทาครีมกันแดดอาจทำให้ผิวโดนทำร้ายจากรังสี UV ได้

 

การสครับผิวเป็นหนึ่งในเคล็ดลับการเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรงได้ แน่นอนว่าเมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ ใคร ๆ ก็สามารถเลือกโปรแกรมสครับผิวที่ตอบโจทย์และดีต่อใจได้อย่างแน่นอน

Let’s Relax Spa ร้านสปาผิวใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมชวนคุณมาผ่อนคลายทั้งกายใจไปกับโปรแกรมปรนนิบัติสครับผิวจากผู้เชี่ยวชาญ รองรับความต้องการแบบครบครันด้วยผลิตภัณฑ์สครับธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว ตอบโจทย์ผลลัพธ์ผิวกระจ่างใสสุขภาพดี เนียนนุ่มจนใคร ๆ ก็หลงรัก

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกโปรแกรมสครับผิวที่เหมาะสมได้แล้วที่ Let’s Relax ทุกสาขาทั่วไทย หรือ จองใช้บริการสปาผิวที่ต้องการได้ด้วยตัวเองที่

 

 

 

Related post

manage cookie settings