ไมเกรนเป็นโรคปวดศีรษะเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาและบรรเทาอาการแบบไม่พึ่งพายา เรามี 7 วิธีที่ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนมาแนะนำ แต่ละวิธีจะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
อาการปวดไมเกรนคือโรคทางระบบประสาทที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ซึ่งมักปวดเป็นจังหวะบริเวณข้างใดข้างหนึ่ง อาจเกิดได้เป็นชั่วโมงหรือหลายวัน ในบางกรณีอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน และไวต่อแสง เสียง กลิ่น และสัมผัส โดยระดับความรุนแรงจะมีตั้งแต่ปวดเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงมาก
สำหรับคนที่กำลังต้องการวิธีแก้อาการไมเกรนโดยไม่ต้องพึ่งยา เรามี 7 วิธีบรรเทาอาการมาแนะนำ ดังนี้
การกดจุดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการช่วยบรรเทาอาการไมเกรน โดยตำแหน่งที่สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้คือจุดบริเวณเหนือข้อมือ ขณะที่จุดระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะโดยตรง การกดแต่ละจุดเป็นเวลา 5 นาทีอย่างสม่ำเสมอ จะสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอที่ตึงและลดความรุนแรงของอาการไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วารสารทางการแพทย์ European Neurology ได้รายงานว่า การสูดดมน้ำมันหอมระเหยสามารถลดความรุนแรงของการปวดไมเกรนในผู้ป่วยบางรายได้ วิธีนี้จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและง่ายต่อการใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ยาในการรักษาอาการไมเกรน
ขิงช่วยปรับสมดุลสาร Eicosanoid ในร่างกาย ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะทั้งสองข้างและข้างเดียว การดื่มน้ำขิงหรือทานขิงผงเป็นประจำจึงอาจช่วยลดความถี่และความรุนแรงของการปวดไมเกรนได้ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ขิงเป็นทางเลือกในการรักษา
โยคะช่วยปรับสมดุลร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่ไปเลี้ยงสมอง โดยเฉพาะท่าที่เน้นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า และหลังส่วนบน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากกับคนที่ปวดไมเกรนเป็นประจำ นอกจากนี้ การฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอยังช่วยให้ผู้ป่วยไวต่อสัญญาณเตือนของอาการมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรเริ่มฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
การอดนอนหรือนอนไม่พออาจไปกระตุ้นหรือทำให้อาการไมเกรนแย่ลงได้ เนื่องจากส่งผลต่อระบบประสาทและฮอร์โมน เพื่อลดความเสี่ยง ควรนอน 7-8 ชั่วโมงต่อคืนเป็นประจำ สร้างตารางการนอนที่สม่ำเสมอ และจัดสภาพแวดล้อมการนอนให้เหมาะสมต่อการพักผ่อน
การจัดการความเครียดเป็นกุญแจสำคัญในการบรรเทาอาการไมเกรน ซึ่งการลดความเครียดก็มีอยู่หลากหลายวิธี โดยอาจเริ่มจากการฝึกเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ทำสมาธิ หรือการฟังเพลงที่ชื่นชอบ นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็เป็นวิธีที่ได้ผลดีเช่นกัน
การนวดสปาเป็นอีกวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนวดผ่อนคลายนั้นจะเน้นการนวดบริเวณศีรษะ คอ และไหล่ เพื่อคลายความตึงของกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดหัว นอกจากนี้ การใช้น้ำมันหอมระเหยในการนวด เช่น น้ำมันลาเวนเดอร์ยังช่วยบรรเทาอาการและสร้างความผ่อนคลายได้มากขึ้นด้วย
วิธีแก้อาการไมเกรนเหล่านี้อาจช่วยบรรเทาความรุนแรงได้โดยไม่ต้องพึ่งพายา อย่างไรก็ตาม หากอาการรุนแรงหรือเป็นเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยควบคุมอาการไมเกรนในระยะยาวได้
สำหรับคนที่ต้องการนวดผ่อนคลายความเครียด นวดไทยรีดเส้น หรือต้องการนวดในแบบอื่น ๆ เพื่อบรรเทาอาการไมเกรน สามารถใช้บริการได้ที่ Let’s Relax ร้านนวดเชียงใหม่ระดับพรีเมียมที่ขยายสาขาไปทั่วประเทศ เราพร้อมให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ สนใจนัดหมายผ่านทางออนไลน์ได้ทั้งช่องทางเว็บไซต์ ที่ลิงก์ https://booking.letsrelaxspa.com/book และ LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1
ข้อมูลอ้างอิง
ปัญหา "ขับรถนานปวดหลัง" เป็นเรื่องที่หลายคนอาจกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับรถเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะไกล ขับรถไปทำงาน หรือขับรถส่งของ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความทรมานให้แก่ร่างกาย แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย บทความนี้จะมาเจาะลึกถึงสาเหตุของอาการปวดหลังจากการขับรถนาน ๆ พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันและบรรเทา เพื่อให้คุณขับรถได้อย่างสบายและปลอดภัย สาเหตุของอาการปวดหลังจากการขับรถ อาการปวดหลังจากการขับรถเป็นระยะเวลานาน มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ดังนี้ (more…)
ในยุคที่ทุกอย่างเร่งรีบและเต็มไปด้วยความกดดัน ส่งผลให้คนทำงานหลายคนต้องเผชิญกับภาวะเครียด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจนำมาสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงอย่างไม่รู้ตัว บทความนี้จะขอพาไปเช็ก 10 สัญญาณเตือนของ “อาการเครียด” พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไข เพื่อให้รู้เท่าทันและรับมือกับปัญหาได้อย่างทันท่วงที ทำความรู้จักอาการเครียด อาการเครียดเป็นสภาวะทางอารมณ์และจิตใจที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลต้องเผชิญกับความกดดัน ความวิตกกังวล หรือปัญหาที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจหรือไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แม้ว่าความเครียดในระดับพอดีอาจช่วยกระตุ้นให้เราทำงานได้ดีขึ้น แต่หากมีมากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจอย่างรุนแรงได้เช่นกัน (more…)
