เชื่อว่าหลายคนอาจเคยประสบกับปัญหาผิวแห้งกร้าน หมองคล้ำ จนทำให้ขาดความมั่นใจ ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่ได้ดูแลอย่างถูกวิธี ก็อาจกลายเป็นปัญหาสะสมจนยากจะฟื้นฟู บทความนี้ขอแนะนำ 5 วิธีบำรุงผิวด้วยตัวเอง ที่จะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี เปล่งปลั่ง กระจ่างใส พร้อมเผยผิวได้อย่างมั่นใจในทุกฤดู
สำหรับใครที่ฝันอยากจะมีผิวสวยสุขภาพดี บอกเลยว่า ครีมกันแดด คือสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในทุกวัน เพราะครีมกันแดดมีหน้าที่ปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำและแห้งกร้าน โดยเฉพาะคนที่ชอบออกไปท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกบ้าน ยิ่งต้องทา
ครีมกันแดดให้ติดเป็นนิสัย โดยครีมกันแดดนั้นไม่ใช่แค่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหมองคล้ำเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยปรับสีผิวของเราให้เรียบเนียน กระจ่างใส พร้อมฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์อีกด้วย
อีกหนึ่งวิธีบำรุงผิวด้วยตัวเองที่จะช่วยให้ผิวดูดีขึ้นได้ ก็คือการสครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และช่วยให้ผิวพร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ โดยหลังสครับ เราจะรู้สึกได้เลยว่าผิวดูกระจ่างใส และมีความเนียนนุ่มมากขึ้น ซึ่งเราสามารถทำสครับได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง จากของที่มีอยู่ในบ้าน เช่น ขมิ้นผสมกับกากกาแฟ, น้ำตาลทรายผสมกับน้ำผึ้ง หรือ มะขามเปียกผสมกับนมสด แต่ข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรสครับผิวติดต่อกันทุกวัน เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
นอกจากครีมกันแดดแล้ว อีกหนึ่งตัวช่วยที่เราควรเพิ่มไว้ในกิจวัตรการบำรุงผิวด้วยตัวเอง ก็คือครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของวิตามิน E เพราะวิตามิน E มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนจุดด่างดำ และช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ นอกจากนี้ วิตามิน E ยังสามารถช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้น การหมั่นทาครีมหรือโลชั่นที่มีวิตามิน E เป็นส่วนผสม จึงเป็นวิธีที่จะช่วยฟื้นฟูผิวของเราให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
หากใครที่ต้องการให้ผิวดูสวยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน นอกจากการบำรุงภายนอกแล้ว สิ่งที่ควรทำควบคู่กันไปก็คือการบำรุงจากภายใน ด้วยการเติมวิตามินจากผักและผลไม้ ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยให้ผิวสวยแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอีกด้วย โดยผักและผลไม้ที่จะช่วยบำรุงผิวของเราได้ก็คือ ส้ม แอปเปิล มะเขือเทศ อาโวคาโด ทับทิม มะพร้าว รวมถึงกลุ่มผักใบเขียว อย่าง ผักโขม และบรอกโคลี ที่ดีต่อผิว ดีต่อสุขภาพ
ปิดท้ายด้วยเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้ผิวของเราดูสวยเปล่งปลั่ง พร้อมช่วยบำบัดร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน นั่นก็คือการ แช่ออนเซ็น เคล็ดลับผิวสวยที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโดยทั่วไป หลายคนอาจคุ้นเคยกับประโยชน์ของออนเซ็นในฐานะบ่อน้ำพุร้อนที่ช่วยมอบความผ่อนคลายและช่วยให้หายปวดเมื่อย แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายแล้ว การแช่ออนเซ็นยังช่วยบำรุงผิวของเราได้อีกด้วย เพราะในน้ำพุร้อนประกอบด้วยแร่ธาตุจากธรรมชาติหลากหลายชนิด ที่ช่วยขับล้างสารพิษที่ตกค้าง พร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน หลังแช่ออนเซ็น เราจึงรู้สึกได้ว่า ผิวพรรณดูสดใส เปล่งปลั่ง และชุ่มชื้น ทั้งยังรู้สึกสดชื่น ราวกับได้รับการพักผ่อนมาอย่างเต็มที่
แวะมาบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง พร้อมบำบัดร่างกายและจิตใจ ไปกับบริการนวดสปาและออนเซ็นกรุงเทพฯ ที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ในการพักผ่อนที่เหนือระดับ พร้อมรับการบำรุงด้วยผงน้ำแร่คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น จองบริการได้เลยที่ Let’s Relax Spa กว่า 55 สาขาในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศไทย จองแพ็กเกจนวดผ่านทางออนไลน์ได้ทั้งช่องทางเว็บไซต์ ที่ลิงก์ https://booking.letsrelaxspa.com/book และ LINE Official https://lin.ee/QxwQOB1
ปัญหา "ขับรถนานปวดหลัง" เป็นเรื่องที่หลายคนอาจกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับรถเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะไกล ขับรถไปทำงาน หรือขับรถส่งของ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความทรมานให้แก่ร่างกาย แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย บทความนี้จะมาเจาะลึกถึงสาเหตุของอาการปวดหลังจากการขับรถนาน ๆ พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันและบรรเทา เพื่อให้คุณขับรถได้อย่างสบายและปลอดภัย สาเหตุของอาการปวดหลังจากการขับรถ อาการปวดหลังจากการขับรถเป็นระยะเวลานาน มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ดังนี้ (more…)
ในยุคที่ทุกอย่างเร่งรีบและเต็มไปด้วยความกดดัน ส่งผลให้คนทำงานหลายคนต้องเผชิญกับภาวะเครียด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจนำมาสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงอย่างไม่รู้ตัว บทความนี้จะขอพาไปเช็ก 10 สัญญาณเตือนของ “อาการเครียด” พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไข เพื่อให้รู้เท่าทันและรับมือกับปัญหาได้อย่างทันท่วงที ทำความรู้จักอาการเครียด อาการเครียดเป็นสภาวะทางอารมณ์และจิตใจที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลต้องเผชิญกับความกดดัน ความวิตกกังวล หรือปัญหาที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจหรือไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แม้ว่าความเครียดในระดับพอดีอาจช่วยกระตุ้นให้เราทำงานได้ดีขึ้น แต่หากมีมากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจอย่างรุนแรงได้เช่นกัน (more…)
